ฤกษ์ยาม ตามหลักศาสนาพุทธ

ฤกษ์งาม ยามดี คำนี้เราคงเคยได้ยินกันตั้งแต่เล็ก หลายๆคนมักจะไปหาโหร หาหมอดู หรือ หาพระภิกษุ เพื่อให้ท่านเหล่านั้น ช่วยดูฤกษ์ ดูยาม ในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแต่งงาน ออกรถ ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการ เปิดสำนักงานใหม่ และอื่นๆอีกมากมาย

ซึ่งบางที่ก็ต้องเสียเงิน-เสียทองในการดู บางที่ก็อาจจะฟรี แต่ผลลัพธ์เท่าที่พบก็ไม่แน่นอนเท่าไรนัก บางคู่ที่ดูฤกษ์แต่งงานกันนั้น  หลายคู่ก็รักกันดี หลายคู่ก็เลิกกัน ผลลัพธ์ไม่แน่ไม่นอนทั้งสิ้น

เราลองมาดูกันครับ ว่า พระพุทธเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับเรื่องฤกษ์-ยามว่าอย่างไรบ้าง? พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ใน "สุปุพพัณหสูตร" พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต เนื้อหาว่า ดังนี้: 

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้า ก็เป็นเวลาเช้าที่ดี ของสัตว์เหล่านั้น
สัตว์เหล่าใด ประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วย วาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเที่ยง เวลาเที่ยง ก็เป็นเวลาเที่ยงที่ดี ของสัตว์เหล่านั้น
สัตว์เหล่าใด ประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็น ก็เป็นเวลาเย็นที่ดี ของสัตว์เหล่านั้น
สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าเป็น ฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี และบูชาดี...

สรุปก็คือ หากเราทำดีทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจในตอนไหนแล้ว ก็ดีตอนนั้นนั่นเองครับ ไม่ต้องไปกังวลเรื่องฤกษ์ เรื่องยาม อะไรนักหรอกครับ ทำดีตอนไหนก็ดีตอนนั้นเลยทันทีครับ.................เจริญธรรม


0
0
0
s2smodern

ติดตามเราบนช่องทางอื่น:

ติดตามเรา ทาง FACEBOOK

ติดตามเรา ทาง LINE @

ซีรี่ย์อีสานสาวแพนนิทานก้อม

จำหน่ายฉนวนกันเสียง Rockwool และ Zoundblock

รับติดตั้ง ผนังกันเสียง คอนโดฯ