ชีส (Cheese) หรือ เนยแข็งนั้น เป็นส่วนประกอบในอาหารที่ค่อนข้างนิยมมากในปัจจุบัน เช่น แซนวิซแฮมชีส ปอเปี๊ยะแฮมชีส ผักโขมอบชีส เป็นต้น เป็นเพราะรสชาติที่อร่อย เหนียมนุ่ม และกลิ่นหอมนมอีก ชีสจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

นอกจากความอร่อยตามที่กล่าวแล้ว ชีสยังมีประโยชน์มากมายที่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้อีก ดังนี้:

• ชีส (Cheese) ประกอบด้วย แคลเซียม โปรตีน ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามิน A และวิตามิน B12
• ชีส   เหมาะสำหรับผู้ที่ขาดแคลเซียม เพราะในชีส 1 ออนซ์ ประกอบด้วยแคลเซียมสูงถึง 175-224 มิลลิกรัม หรือคิดเป็น 18-22% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันเลยทีเดียว
• ด้วยปริมาณแคลเซียมที่สูง ชีสจึงดีต่อกระดูกและฟัน
• หากคุณเป็นโรคแพ้น้ำตาลแลคโตส (Lactose Intolerant) หรือแพ้น้ำตาลในนมวัว ก็สามารถรับประทานชีสบางประเภทได้ เช่น เช็ดด้า ชีส (Cheddar Cheese) หรือ สวิสชีส (Swiss Cheese) เพราะมีโลคโตสต่ำมาก หรือแทบไม่มีเลย
• 30 ปีที่ผ่านมา เชื่อกันว่าไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) ที่พบในอาหารประเภท ชีส หรือ นม หรือ ไข่ไก่ หรือเนื้อสัตว์ นั้น เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคหัวใจ แต่การศึกษาในปัจจุบันพบว่า ไขมันอื่มตัวนั้นเป็นปัจจัยมีผลน้อยมากต่อการเกิดโรคหัวใจ จึงเปลี่ยนความเชื่อผิดๆที่มีมาแต่เดิม ในความรู้ปัจจุบัน คนเราสามารถรับประทานอาหารประเภท ชีส นม ไข่ไก่ หรืออื่นๆที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ได้มากขึ้น
• แม้ว่าไขมันอิ่มตัวจะไม่ได้เป็นปัญหาอีกต่อไป แต่ก็อย่าลืมว่า ชีสนั้นให้พลังงานแคลอรี่สูงมากเช่นกัน ดังนั้น จึงไม่ควรรับประทานชีสเกินวันละ 40 กรัม (หรือ ประมาณเท่ากับเช็ดด้า ชีส 2 แผ่น)